วันศุกร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2553

Contemporary Work5


Postcard


Happy New Year 2011 สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๔


ออกแบบโดยเน้นความโมเดิร์นแฝงความเป็นไทยเล็กๆค่ะ ต้องการให้มีความน่ารักและเรียบง่ายค่ะเลยใช้คู่สีที่ดูแล้วสบายตา และใช้รูปทรงง่ายๆอย่างรูปทรงสี่เหลี่ยมและรูปทรงวงกลมค่ะ แอนคิดว่าความเป็นวงกลมหลายๆวงหลายๆสีสามารถสื่อถึงอะไรได้หลายๆอย่างค่ะ อย่างในงานชิ้นนี้แอนคิดว่ามันสามารถจินตนาการถึงแสงสี, ลูกโป่ง, ลวดลายต่างๆของริบบิ้น ฯลฯ แทบทุกอย่างในงานถึงใช้วงกลมมามีส่วนร่วมค่ะ จะสังเกตได้ว่าภายในตัวอักษรบนพื้นหลังสีน้ำตาลข้มนั้นจะใช้วงกลมทั้งหมดค่ะ

แม้ว่าที่ได้กล่าวมาข้างต้น จะกล่าวถึงความหมายของวงกลมไปในทิศทางของ 'ความสนุก' ก็ตามที แต่สิ่งที่ต้องการจะสื่อจริงๆคือความน่ารัก สบายๆ และความเรียบร้อยค่ะ ความสนุกต้องการให้เป็นส่วนเล็กๆ(แต่ต้องไม่เล็กมากนะคะ) เพราะว่าสิ่งที่ได้กล่าวมาคือคอนเสปหลักค่ะแอนคิดว่าปีใหม่เราทุกคนควรจะเปลี่ยนแปลงอะไรใหม่ๆ จากไทยๆก็ก้าวเข้าสู่ความเป็นโมเดิร์นทีละนิด และในความคิดแอนความเป็นไทยจะต้องมีระเบียบและกฎเกณฑ์(ในที่นี่นำเอาเรื่องความเรียบร้อย และสีน้ำตาลเข้มเข้ามาสื่อสารค่ะเพราะสีน้ำตาลเข้มแอนคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องของความหัวโบราณ การยึดติดระเบียบแบบแผน และความรักธรรมชาติค่ะ) และอีกอย่างหนึ่งคือแอนคิดว่าคนไทยทุกคนมีความน่ารักในตัวมีความอ่อนโยน และโอนอ่อนด้วยค่ะ(ในที่นี้จึงได้นำคอนเสปเรื่องความน่ารักและได้เลือกคู่สีที่ทำให้ดูน่ารัก โอนอ่อน สบายๆ เข้ามาสื่อสารค่ะ)

ส่วนพื้นที่สีขาวนั้นต้องการออกแบบให้ดููสะอาดและสบายตาด้วยคู่สีที่ค่อนข้างพาสเทลค่ะ ลวดลายข้างหลังคำว่า HAPPY นั้นเป็นลวดลายไทยและได้ผ่านขั้นตอนการตัดทอนมาแล้วค่ะ เพื่อเพิ่มความโมเดิร์นเข้าไปในงานชิ้นนี้ให้มากขึ้นและแน่นอนว่าที่เน้นคำว่า HAPPY ด้วยสีน้ำตาลเข้มก็เพราะว่าต้องการจะสื่อว่า HAPPY แบบไทยๆและควรจะรักษากฎเกณฑ์ด้วยนะคะ ^v^~

Contemporary work 4


SHOW ME THAI

SHOW ME THAI by สันติ ลอรัชวี (Practical Studio)
Contemporary art exhibition.
On the 120th anniversary of Japan-Thailand
diplomatic relations at MOT, Tokyo, Japan


เป็นผลงานของ อ.สันติ ลอรัชวี ซึ่งภาพๆนี้เป็นภาพโปสเตอร์เพื่อสร้างเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่น จากภาพเราจะสามารถเห็นสีของธงชาติไทยเป็นอย่างแรก และเมื่อเราลองมองพิจารณาดูเราจะสามารถเห็นได้ว่ามันคือ form ของธงชาติญี่ปุ่นค่ะ และลวดลายข้างหลังคาดว่าน่าจะเป็นลายผ้าไทยค่ะ
เรื่องสีของธงชาติไทย แอนคิดว่าน่าจะมีการปรับให้เป็นสีพาสเทลนิดๆ เพราะประเทศญี่ปุ่นจะโดดเด่นในด้านศิิลปะการออกแบบต่างๆ รวมไปถึงทางด้านการ์ตูนด้วย และในการ์ตูนของญี่ปุ่นนั้น ส่วนมากมักจะเลือกใช้สีพาสเทลค่ะ ซึ่งสีเหล่านี้แอนคิดว่าแทบจะเป็นเอกลักษณ์ของการ์ตูนญี่ปุ่นไปแล้วค่ะ


ฟอนท์ที่ได้เลือกใช้ แอนคิดว่าน่าจะเป็นโลโก้ไทป์ค่ะ เพราะถ้าหากสังเกตดีๆ ที่ตัว “h” จะมีความคล้ายกับ “ไ” ของไทย และ ตัวอักษรมีความโค้งมนและยังคล้ายว่าจะเป็นฟอนท์ภาษาอังกฤษที่มีหัวด้วยค่ะ

มีกิมมิคเล็กๆเป็นรูปรถตุ๊กๆซึ่งเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของประเทศไทยด้วยนะคะ เป็นภาพที่เชื่อความสัมพันธ์ของประเทศไทย และญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ

วันพฤหัสบดีที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2553

Contemporary work 3


BDF (Bangkok Design Festival)

BDF เป็น Event หลักของการประชุมด้านเศรษฐกิจ
และความคิดสร้างสรรค์ระดับนานาชาติช่วงปลายเดือน
พฤศจิกายน ซึ่งภายในงานนี้สามารถแบ่งได้ 3 กลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่

Love & Friendship
เป็นการร่วมมือกันออกแบบระหว่าง Designer ชาวไทยและชาวต่างประเทศ

Next Station Bangkok
ตลาดนัดงานออกแบบ ที่มีทั้ง ผลิตภัณฑ์ โปสเตอร์ สิ่งพิมพ์ แฟชั่น และอื่นๆ

Exhibitions and Showcases
งานนี้เป็นงานโชว์ผลงานของนักศึกษา คล้ายกับการโชว์ Portfolio

My Opinion

ที่ได้ไปดูมาที่หอศิลป์ แอนชอบงานลายเส้นภาพประกอบที่เค้าได้นำมาทำเป็นลาย Wallpaper ที่ชั้น 2 ของหอศิลป์ค่ะ


วิเคราะห์ภาพ จากที่ได้ไปดูภาพนี้ที่หอศิลป์มาแอนชอบภาพนี้มากค่ะ เพราะว่า มีลายเส้นสวยงาม มีความเป็นเอกลักษณ์ และที่สำคัญแอนคิดว่าภาพนี้เป็นภาพที่ตรงคอนเสปของงาน Love &Friendship มากๆเลยค่ะ

ภาพๆนี้เป็นภาพที่มีนกสองตัวคาบริบบิ้นมาเกี่ยวกันเป็นตัวอักษรคำว่า “All you need is love” ซึ่งแอนคิดว่าการที่ดีไซน์เนอร์ใช้รูปนกเข้ามามีบทบาทในภาพนี้เพราะว่าต้องการให้แสดงถึงเรื่องสันติภาพ หรืออาจคิดได้อีกอย่างนึงว่าต้องการให้นกแทนตัวตนของดีไซน์เนอร์เอง ซึ่งหากนำเอาความหมายสองความหมายนี้มารวมกันก็จะสามารถวิเคราะห์ภาพนี้ได้ว่าดีไซน์เนอร์สองคนนี้เป็นคนต่างสัญชาติกัน แต่ก็ยังร่วมมือกันสร้างผลงานชิ้นนี้ด้วยความปราณีต คำว่าร่วมมือในที่นี้ยังแสดงถึงเรื่อง มิตรภาพ และความเชื่อใจกันในการสร้างผลงานชิ้นนี้อีกด้วย ทั้งยังคงเอกลักษณ์ของตนเองไว้ในภาพ แอนคิดว่าที่ได้อธิบายไปนั่นคือการตอบโจทย์ที่ตรงกับคอนเสปLove & Friendship มากๆค่ะ

วันพุธที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2553

Contemporary Work2


ทำไม ต้องมีนักออกแบบ ?


ทำไมต้องมีนักออกแบบ? เมื่อได้ยินคำถามนี้สิ่งแรกที่คิดขึ้นมาในหัวก่อนก็คือ นักออกแบบคืออะไร? ก่อนที่เราจะคิดถึงหน้าที่ของอาชีพอาชีพหนึ่งทำไมต้องมีนักออกแบบ? เมื่อได้ยินคำถามนี้สิ่งแรกที่คิดขึ้นมาในหัวก่อนก็คือ นักออกแบบคืออะไร? ก่อนที่เราจะคิดถึงหน้าที่ของอาชีพอาชีพหนึ่ง เราก็ควรที่จะรู้เสียก่อนว่าอาชีพอาชีพนี้ทำงานเกี่ยวกับอะไรและทำไมบนโลกใบนี้จึงจำเป็นต้องมีอาชีพนักออกแบบ ซึ่งพอลองย้อนคิดดู ก็ได้คำตอบออกมาค่อนข้างที่จะหลากหลายมากมายอยู่พอสมควร เพราะเป็นสิ่งที่ได้สะสมมาตั้งแต่เรียนปีหนึ่งซึ่งความคิดนี้ได้เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ อาจจะเรียกได้ว่าทัศนคติต่างๆ หรือประสบการณ์ต่างๆที่ได้เรียนรู้มาสามารถเปลี่ยนความคิดของเราได้ เราก็ควรที่จะรู้เสียก่อนว่าอาชีพอาชีพนี้ทำงานเกี่ยวกับอะไรและทำไมบนโลกใบนี้จึงจำเป็นต้องมีอาชีพนักออกแบบ ซึ่งพอลองย้อนคิดดูก็ได้คำตอบออกมาค่อนข้างที่จะหลากหลายมากมายอยู่พอสมควร เพราะเป็นสิ่งที่ได้สะสมมาตั้งแต่เรียนปีหนึ่งซึ่งความคิดนี้ได้เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆอาจเรียกได้ว่าทัศนคติต่างๆ หรือประสบการณ์ต่างๆที่ได้เรียนรู้มาสามารถเปลี่ยนความคิดของเราได้

เมื่อตอนเริ่มแรก เราคิดว่านักออกแบบคือคนที่สามารถจินตนาการอะไรเก่งๆแล้วสามารถบรรยายออกมาเป็นรูปวาดหรือเทคนิกต่างๆตามที่ตนเองถนัดได้ก็สามารถเป็นนักออกแบบได้แล้ว แต่พอเรียนจบปี1ก็รู้ว่าเพื่อนบางคนวาดรูปไม่เป็นด้วยซ้ำ แต่สามารถคิดหรือดูงานจากที่อื่นมาสร้างสรรค์งานที่สวยงามได้ สิ่งที่ได้เรียนรู้มาก็คงจะเป็นการช่างสังเกตนั่นคือความคิดของเราตอนที่เรียนจบปี1

พอขึ้นปี2และเรียนจบปี2เทอม1 ก็ได้เรียนรู้ว่ารสนิยมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักออกแบบ แต่พอขึ้นปี2เทอม2ก็ได้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิชา Typography อาจารย์ต้องการให้เราสามารถใช้ตัวอักษรสื่ออารมณ์ให้ได้ ซึ่งในตอนที่เรียนอยู่นั้น ตัวเรายังไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าทำเพื่ออะไร แต่พอเรียนจบปี2เทอม2 เราก็ได้รู้ว่าสิ่งที่อาจารย์ต้องการจะสอนก็คือการสื่อสารด้วยVisual Language หรือก็คือภาพต้องการสื่อสารอะไรกับผู้ที่มาเห็นโดยที่ไม่จำเป็นจะต้องอ่านคำบรรยาย

พอขึ้นปี3เทอม1 ก็ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการจัดระบบทางความคิด การจัดระบบทางการสื่อสาร ทุกอย่างที่เราทำจะต้องมีความหมายจะต้องตรงตามคอนเสป จะต้องมีการบรีฟงาน และแบ่งเวลาการทำงานให้ได้ไม่ว่างานจะมากแค่ไหนก็ตาม สิ่งที่ได้เรียนรู้ในปี3เทอม1นั้นสามารถตอบคำถามคำถามนี้ได้อย่างง่ายดาย อาจเป็นเพราะว่าปี3เทอม1เป็นเทอมที่หนักที่สุดเท่าที่เคยเจอมาก็ได้ จึงรู้สึกว่าเราเริ่มจะเป็นนักออกแบบและเข้าใจในสายอาชีพนี้มากยิ่งขึ้นเรื่อยๆในแต่ละวัน


เมื่อลองนำประสบการณ์ทั้งหมดมาสรุป เพื่อตอบคำถามว่า “นักออกแบบคืออะไร?” และ “ทำไมต้องมีนักออกแบบ?” ก็สามารถหาคำจำกัดความได้ดังนี้

- นักออกแบบคือ ผู้คิดอย่างมีระบบ
- นักออกแบบคือ ผู้สร้างสรรค์อย่างมีเหตุผล
- นักออกแบบคือ ผู้คิดริเริ่มหรือผู้ที่สามารถต่อยอด
ความคิดของผลงานในอดีตได้อย่างมีระบบ
- นักออกแบบคือ ผู้ที่วางแผนก่อนการสร้างสรรค์งานเพื่อให้เกิดระบบที่ถูกต้องตามคอนเสปที่วางไว้ มิใช่การออกแบบสร้างสรรค์ด้วย อารมณ์ศิลป์เพียงอย่างเดียว

เพราะฉะนั้นสามารถสรุปได้ว่า นักออกแบบที่ดีคือผู้ที่สามารถคิดอย่างมีระบบ สร้างสรรค์อย่างมีเหตุผลมีการวางแผนงานและมีการดูแลระบบความคิดการทำงานที่ดี ผลงานที่ออกมาจะต้องมีการสื่อสารให้ตรงตามคอนเสปที่วางไว้ การนำไปใช้ตามสื่อต่างๆบางครั้งก็อาจต้องมีการวางระบบเพื่อการนำไปใช้ด้วย เช่น งานCorporate Identity, Logo, หรือการออกแบบต่างๆ และสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันกับการวางระบบที่ดีคือรสนิยมของนักออกแบบแต่ละคน

และคำถามที่ว่า “ทำไมต้องมีนักออกแบบ?” ก็เพื่อสร้างสรรค์สิ่งต่างๆให้เกิดระบบที่ดีขึ้น นักออกแบบอาจเป็นได้ทั้งผู้ที่คิด, ผู้ที่ริเริ่ม, ผู้จัดระบบทางความคิด, ผู้ต่อยอดทางความคิด, ผู้ที่ต้องการสื่อสารโดยผ่านสื่อที่สร้างสรรค์ หรือคำจำกัดความอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งอาชีพนี้มีความสำคัญมาก ยกตัวอย่างเช่น ไม่ว่าคุณ จะเดินไปที่ไหน ก็จะเจอแต่ผลงานของนักออกแบบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นตามห้างสรรพสินค้า, ตามร้านอาหารต่างๆ, ผลิตภัณฑ์ต่างๆ หรือแม้แต่เวลาขับรถไปตามทาง ป้ายต่างๆก็คือผลงานที่ผ่านการจัดระบบต่างๆมาแล้วจากอาชีพนักออกแบบ ถ้าหากขาดอาชีพนี้ไปในสักวัน หากเราเจอป้ายบอกทาง ก็อาจมีการบอกทางผิดหรืออ่านไม่ออก, ถ้าหากเราไปซื้อของตามห้างเราอาจจะไม่เจอแบรนด์ที่เราต้องการ ระบบแบรนด์ดิ้งคงจะปะปนกันมั่ว หรือบรรจุภัณฑ์ที่สวยงามที่เราเคยเห็นอาจจะกลายเป็นได้แค่ถุงพลาสติกห่อผลิตภัณฑ์ นี่แหละคือความสำคัญของนักออกแบบซึ่งในความคิดของเรา อาชีพนี้เป็นอาชีพที่ไม่สามารถขาดได้เลย